Get Adobe Flash player
ชื่อโครงการ การใช้อาหาร Partial mixed ration เป็นอาหารโคนม
ผู้ดำเนินการ 1. นายสารกิจ ถวิลประวัติ และทีมวิจัย
  2. ว่าที่ร้อยตรีณัฐพล สุวรรณสิน
ระยะเวลาดำเนินการ 8 เดือน ระหว่างเดือนสิงหาคม 2551 – มีนาคม 2552 (งานวิจัยเสร็จสิ้นปี 2553)

เป้าหมาย

  1. เป็นแนวทางในการเพิ่มมูลค่าเศษเหลือจากอุตสาหกรรมและอาจจะช่วยลดของเสียที่จะเกิดขึ้น
  2. เป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้ผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมต่างๆ ในการเลี้ยงโค
  3. ทราบข้อมูลเบื้องต้นของอาหาร Partial mixed ration เพื่อแนวทางการประยุกต์ใช้กับสัตว์กระเพาะรวมชนิดอื่น
  4. เป็นแนวทางที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตโคของเกษตรกรไทย

วัตถุประสงค์
งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการใช้อาหาร Partial mixed ration (RMR) ในอาหารโคนม โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

  1. ศึกษาองค์ประกอบทางเคมี และคุณค่าทางโภชนะของอาหาร PMR
  2. ศึกษาผลของการใช้อาหาร PMR ต่ออัตราการเจริญเติบโตของโคนมที่น้ำหนักเริ่มต้นเฉลี่ย 180 กิโลกรัม จนถึงน้ำหนัก 300 กิโลกรัม
  3. ศึกษาประสิทธิภาพการผลิตของโคนมที่เลี้ยงด้วยอาหาร PMR เพื่อเป็นแหล่งของอาหารหยาบในอาหารของโคนม
  4. ศึกษาผลของการใช้อาหาร PMR ในอาหารโคนมต่อสมรรถภาพการผลิต ได้แก่ ปริมาณการกินได้ อัตราการเจริญเติบโต ประสิทธิภาพการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ำหนักตัว ผลผลิตน้ำนมและองค์ประกอบของน้ำนมโค

สรุปผลการทดลอง

การนำชานอ้อยที่มีปริมาณโปรตีนและพลังงานต่ำมาปรับปรุงคุณภาพ โดยการหมักร่วมกับเศษข้าวโพดหวานและกากน้ำตาลเอทานอล ประกอบขึ้นเป็น PMR โดยใช้กากน้ำตาลเอทานอลเป็นแหล่งโปรตีน สามารถเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้สูงขึ้น และการใช้แอมโมเนียเหลวใน PMR 12%CP พบว่ามีปริมาณโปรตีนสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับ PMR7%CP ที่ไม่มีการเสริมแอมโมเนียเหลว นอกจากนี้ การใช้แอมโมเนียวเหลวยังส่งผลให้ค่าความเป็นกรด-ด่างของ PMR12%CP มีระดับสูงกว่า PMR7%CP ทั้งนี้ เป็นเพราะสมบัติทางเคมีที่เป็นด่างแก่ (pH 11.60) ของแอมโมเนียเหลว ส่วนองค์ประกอบทางเคมีอื่นๆ เช่น ปริมาณวัตถุแห้ง องค์ประกอบพวกเยื่อใย ถ้า กรดแลคติก และกรดอะซิติก ไม่พบความแตกต่างของ PMR ทั้ง 2 ทรีทเมนต์ และเมื่อนำ PMR7%CP และ PMR12%CP มาใช้เป็นแหล่งอาหารหยาบร่วมกับฟางข้าว พบว่าโคนมมีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัว และปริมาณผลผลิตน้ำนมที่สูงขึ้น มากกว่าโคนมกลุ่มที่ได้รับฟางข้าวเป็นแหล่งอาหารหยาบเพียงอย่างเดียว และเมื่อนำเลือดของโคนมมาวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี ได้แก่ ยูเรีย ไนโตรเจนในเลือด กลูโคสในเลือด และฮอร์โมนไตรไอโอโดไทโรนีน พบว่าอยู่ในสภาวะปกติ เมื่อพิจารณาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า โดยพบว่าการใช้ PMR ทดแทนแหล่งอาหารหยาบบางส่วน สามารถช่วยเพิ่มรายได้สุทธิจากน้ำนมปกติ มากกว่าโคนมกลุ่มที่ไม่ได้รับ PMR ดังนั้น PMR จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้งของทุกๆ ปี ที่ขาดแคลนพืชอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพดี (หญ้าสด) และยังเป็นแนวทางในการนำผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมและพลังงานที่มีอยู่มากในปัจจุบันมาใช้ประโยชน์ด้วย

National Center for Genetic Engineering and Biotechnology (BIOTEC)
113 Thailand Science Park, Phahonyothin Road, Khlong Nueng, Khlong Luang, Pathum Thani 12120 THAILAND
Tel: (66-2) 564 6700, Fax : (66-2) 564 6701-5
Copyright © 2009 BIOTEC, NSTDA . All Rights Reserved. Privacy Policy. Powered by MIS.